นิทานเรื่องมดกับนกพิราบ



นิทานเรื่องมดกับนกพิราบ

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าแห่งหนึ่ง ยังมีมดตัวหนึ่งออกไปหาอาหารเพื่อนำกลับเข้ามายังรังที่อาศัย แต่ระหว่างที่มันกำลังหาอาหารตามริมลำธารอยู่นั้น มันได้พลัดตกลงในน้ำ ไม่ว่ามันจะตะเกียกตะกายอย่างไรก็ไม่สามารถขึ้นจากน้ำได้ ในขณะที่กำลังสิ้นหวังอยู่นั้น นกพิราบตัวหนึ่งซึ่งกำลังบินออกจากรังเพื่อไปหากินตามปกติ บินผ่านมาเห็นเข้าจึงเกิดความสงสาร มันจึงบินไปคาบใบไม้ในบริเวณนั้นแล้วปล่อยลงไปบนผิวน้ำใกล้ตัวมด เพื่อให้มดได้เกาะใบไม้นั้นและพาตัวเองกลับเข้าฝั่ง  “ขอบคุณมากนะคุณนกพิราบ” มดตัวน้อยกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
     หลังจากนั้นไม่นาน วันหนึ่งมีพรานป่าออกล่าสัตว์ ขณะที่กำลังสอดส่ายสายตาหาสัตว์เพื่อนำไปทำอาหาร ก็เหลือบไปเห็นนกพิราบกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ นายพรานจึงยกธนูขึ้นเล็งไปยังนกพิราบทันที บังเอิญเหลือเกินที่มดน้อยผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี มันจึงรีบไต่ขึ้นไปบนขาของนายพราน พร้อมกับกัดอย่างแรง จนนายพรานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จนนกพิราบได้ยินเสียงและตกใจบินหนีไป

นิทานเรื่องมดกับนกพิราบเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : เมื่อเราทำความดีกับใคร ความดีนั้นย่อมย้อนกลับมาหาเราไม่วันใดก็วันหนึ่ง
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

นิทานเรื่องหมาป่ากับหมาเลี้ยงแกะ



นิทานเรื่องหมาป่ากับหมาเลี้ยงแกะ

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีฝูงหมาป่ากลุ่มหนึ่งออกจากป่าเพื่อมาหาอาหาร จนพบกับแกะฝูงหนึ่งของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้บนเนินเขา แต่ไม่ว่าจะใช้ความสามารถอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้แกะฝูงนั้นได้ เนื่องด้วยชาวบ้านได้เลี้ยงหมาเลี้ยงแกะไว้หลายตัว เพื่อให้คอยขับไล่ฝูงหมาป่า  ...จะทำอย่างไรดีนะพวกเราถึงจะได้กินแกะทั้งฝูงนั้น เนื้อมันคงอร่อยมากทีเดียว.... หัวหน้าหมาป่าคิด หมาป่าตัวหนึ่งจึงเอ่ยว่า เอาอย่างนี้ดีมั๊ย พวกเราควรชักชวนพวกฝูงหมาเลี้ยงแกะให้มาเป็นพวกเราเสียก่อน เมื่อไม่มีใครเฝ้าแกะแล้วพวกเราก็จะสามารถขย้ำแกะทั้งฝูงได้อย่างสบายใจ ฝูงหมาป่าต่างเห็นด้วยและพร้อมใจกันเห่าหอนด้วยความยินดี
      วันรุ่งขึ้นพวกหมาป่าจึงเดินเข้าไปหาพวกหมาเลี้ยงแกะ แล้วบอกว่า ทำไม่พวกเจ้าไม่มาอาศัยอยู่กับเราในป่าล่ะ ในเมื่อเราต่างก็เป็นหมาเหมือนกัน หมาเลี้ยงแกะตัวหนึ่งจึงกล่าวว่า เรามีหน้าที่เฝ้าแกะให้เจ้านาย และเจ้านายก็เลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี เราต้องทำหน้าที่ของเราให้สมกับที่เขาไว้วางใจ....แต่พวกเจ้าก็ต้องทำงานให้พวกเจ้านายใช่มั๊ย แต่พวกเราสิ มีอิสระอยู่ในป่าไม่ต้องทำงานเลยแถมยังมีอาหารกินอุดมสมบูรณ์...หมาป่าอีกตัวเอ่ยชักชวน
      พวกหมาเลี้ยงแกะใช้เวลาคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตกลงใจรับคำชักชวนของฝูงหมาป่า ต่างพากันพร้อมใจเดินตามฝูงหมาป่าเข้าไปในป่าแล้วละทิ้งฝูงแกะไปจนหมด  เมื่อพากันมาได้ไกลสักพักหนึ่งแล้ว ฝูงหมาป่าก็หันกลับมาแล้วเอ่ยว่า พวกเรามากันจนถึงถิ่นของพวกเราแล้ว และตอนนี้เราก็หิวมาก เราจะกินพวกเจ้าละ ก่อนที่พวกหมาเลี้ยงแกะจะทันตั้งตัว ทุกตัวก็ตกเป็นอาหารอันโอชะของพวกหมาป่าไปจนหมด หลังจากนั้นเป็นต้นมาฝูงหมาป่าก็ลงมากินแกะในฝูงทุกวันจนแกะในฝูงลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในที่สุดก็ถูกหมาป่าจับกินจนหมด เนื่องจากไม่มีพวกหมาเลี้ยงแกะคอยทำหน้าที่ไล่หมาป่าอีกแล้ว

นิทานเรื่องหมาป่ากับหมาเลี้ยงแกะเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : เมื่อใครก็ตามชักชวนเราด้วยผลประโยชน์ต่าง ๆ เราควรจะไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ว่ามีจุดมุ่งหมายที่ไม่ดีแอบแฝงอยู่หรือเปล่า
 
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

นิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ



นิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในไร่เลี้ยงสัตว์ ทุก ๆ วัน เขาจะนำฝูงแกะไปเลี้ยงบนเนินเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและสัตว์ป่า เขาทำอย่างนี้ทุกวัน จนวันหนึ่งเขานึกสนุกขึ้นมา เขาจึงคิดว่าถ้าเราร้องตะโกนว่ามีหมาป่าออกมากินแกะ ชาวบ้านจะต้องวิ่งโกลาหลเพื่อมาช่วยเขาอย่างแน่นอน และภาพที่ทุกคนต่างวิ่งมาช่วยกันโดยมีอาวุธติดไม้ติดมือมาคนละอย่างสองอย่าง คงจะตลกไม่น้อย คิดได้อย่างนี้เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข
      หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำตามสิ่งที่เขาคิดทันที โดยการทำทีเป็นวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในหมู่บ้าน และตะโกนว่า ...ช่วยด้วย ช่วยด้วย หมาป่ามากินแกะหมดแล้ว....  ชาวบ้านที่ได้ยินต่างพากันหยิบอาวุธที่พอจะหาได้ใกล้มือ ทั้งไม้ มีด จอบและเสียมเพื่อไปไล่หมาป่า แต่เมื่อทุกคนวิ่งไปถึงฝูงแกะ ก็ไม่พบหมาป่าแม้แต่ตัวเดียว และแกะทั้งฝูงก็กินหญ้ากันตามปกติ คงได้ยินแต่เสียงหัวเราะของเด็กเลี้ยงแกะ ชาวบ้านจึงรู้ว่าพวกเขาโดนหลอกเสียแล้ว
       เด็กเลี้ยงแกะทำแบบนี้อยู่ประมาณสองสามครั้ง  และพวกชาวบ้านก็เริ่มระอากับพฤติกรรมของเด็กเลี้ยงแกะที่โกหกบ่อย ๆ ดังนั้น ในวันหนึ่งได้มีฝูงหมาป่าออกมาจับแกะกินจริง ๆ ด้วยความตกใจเด็กเลี้ยงแกะจึงวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปหาชาวบ้านในหมู่บ้านพร้อมกับตะโกนสุดเสียงว่า ...ช่วยด้วย ช่วยด้วย หมาป่าออกมากินแกะ ... แต่ไม่มีชาวบ้านสักคนจะรู้สึกรู้สากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนยังคงทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเพียงแต่ตะโกนให้พวกเราตกใจ เพื่อเล่นสนุกเหมือนทุกครั้งเท่านั้นเอง
        เมื่อทุกคนไม่ออกมาช่วย ในที่สุดหมาป่าก็กินแกะจนหมดทั้งฝูง ทิ้งให้เด็กเลี้ยงแกะนั่งร้องไห้และรำพึงรำพันกับตัวเองว่า ...เราไม่น่าไปหลอกคนอื่น เพื่อความสนุกเลย วันหนึ่งที่เราพูดความจริง ก็ไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว....

นิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ถ้าเราพูดโกหกบ่อย ๆ วันหนึ่งที่เราพูดความจริงก็จะไม่มีใครเชื่อเลย
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

นิทานเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่า



นิทานเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่า

     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีสิงโตตัวหนึ่งออกล่าสัตว์ป่าเป็นอาหาร มันไปพบกระต่ายป่าเข้าก็จะตระครุบเพื่อกินเป็นอาหาร แต่ก่อนที่มันกำลังจะกระโดดตระครุบกระต่ายป่าอยู่นั้น สายตามันก็เหลือบไปเห็นกวางตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ซึ่งเดินหากินแทะเล็มหญ้าอยู่  มันจึงเปลี่ยนใจไปไล่ล่ากวางตัวใหญ่แทน แต่เนื่องจากกวางวิ่งได้เร็วมาก มันจึงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนสิงโตตามไม่ทันและเหนื่อยหอบ
    เมื่อสิงโตเห็นว่าหมดหวังในการได้กวางเป็นอาหาร มันจึงเดินย้อนกลับไปตรงที่เจอกระต่ายป่า แต่อนิจจากระต่ายป่าได้กระโดดหนีไปทางอื่นเสียแล้ว ปล่อยให้สิงโตทั้งเหนื่อยและหิวอยู่ตรงนั้นนั่นเอง  ....รู้อย่างนี้ข้าน่าจะจับกระต่ายป่ากินเป็นอาหารซะตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว....สิงโตคร่ำครวญ

นิทานเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ มากกว่าพยายามไขว่ขว้าสิ่งที่ห่างไกลเราออกไป
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS

นิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่น



นิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่น

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินไปเจอองุ่นต้นหนึ่ง ซึ่งกำลังออกผลองุ่นสุกอยู่เต็มต้น ด้วยความอยากกินผลองุ่นนั้น มันจึงพยายามกระโดดเพื่อให้ถึงพวงองุ่น แต่ไม่ว่ามันจะกระโดดอย่างไร หรือกระโดดสูงจนสุดตัว มันก็ยังไม่ถึงพวงองุ่นเสียที จนมันเริ่มที่จะเหนื่อย
    ดังนั้นมันจึงบอกกับตัวเองว่า ..ดูดูไปแล้วองุ่นที่เห็นยังไม่สุกหอมหวานซะทีเดียว ดูแล้วน่าจะเปรี้ยวเสียมากกว่า และตัวฉันเองก็ไม่ชอบองุ่นรสเปรี้ยวเสียด้วยสิ ว่าแล้วมันก็เดินจากไป ทั้งทั้งที่รู้ดีว่าองุ่นนั้นรสชาติน่าลิ้มลองเพียงใด แต่ที่มันคิดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยวเป็นเพราะว่ามันกระโดดไม่ถึงพวงองุ่นต่างหาก

นิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่นเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : บางครั้งการที่ใครสักคนบอกว่าไม่อยากได้อะไรสักอย่างนั้น จริงจริงแล้วอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะครอบครองมันได้ต่างหาก
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • Twitter
  • RSS